ค่าแฟรนไชส์คือ ค่าธรรมเนียมแรกเข้าครั้งแรก เพื่อมีสิทธิ์ใช้ชื่อ “แบล็คแคนยอน” (BLACK CANYON) ในการเปิดดำเนินธุรกิจขายอาหาร กาแฟและเครื่องดื่ม โดยมีอายุสัญญาฯ 10 ปี และต่ออายุได้อีกทุกๆ 5 ปี การให้สิทธิตามสัญญาฯนี้ จะกำหนดขอบเขตเฉพาะสถานที่ซึ่งกำหนดไว้ในสัญญาฯเท่านั้น
ในการต่ออายุสัญญาแฟรนไชส์นั้น บริษัทฯ จะเปิดโอกาสให้คู่สัญญา มีโอกาสต่อสัญญาฯ ได้ทุก 5 ปี ยกเว้นแต่ ผู้รับสิทธิจะดำเนินการใดๆ อันเป็นการละเมิดสัญญาฯ หรืออาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียง และธุรกิจในนามของ “BLACK CANYON” อนึ่งในสัญญาฯ จะมีการระบุไว้อย่างชัดเจนว่า เมื่อสิ้นสุดสัญญาฯ ผู้รับสิทธิ์จะต้องไม่ประกอบธุรกิจคล้ายคลึง หรือแข่งขันกับธุรกิจของ “BLACK CANYON” เพื่อป้องกันมิให้ผู้ที่เจตนาไม่บริสุทธิ์เข้ามาทำธุรกิจกับ “BLACK CANYON ”
ค่าแฟรนไชส์แบ่งออกเป็น 2 ประเภทดังนี้
1. ภัตตาคาร/ร้านอาหาร (Restaurant) จำหน่ายกาแฟ เครื่องดื่ม และอาหาร
1.1 Mini-Coffee House จำหน่ายกาแฟ เครื่องดื่ม อาหารว่าง อาหารจานเดียว อาหารประเภทยำ ที่ปรุงโดยไม่ใช้เตาแก๊ส ขนาดพื้นที่ไม่เกิน 80-100 ตารางเมตร
1.2 Full Serviced Coffee House ขายกาแฟ เครื่องดื่ม อาหารทุกประเภท ขนาดพื้นที่ประมาณ 101-150 ตารางเมตร พื้นที่เพียงพอต่อการมีห้องครัว เพื่อปรุงอาหารได้อย่างสะดวก
2. ร้านกาแฟ (Coffee Corner/KIOSK) จำหน่ายเฉพาะกาแฟ (BLACK CANYON) , เครื่องดื่ม , เบเกอรี่ (My Bread) และไอศกรีม Gelatoni ขนาดพื้นที่ ไม่เกิน 70 ตารางเมตร
หมายเหตุ : การขายประเภทนี้ ผู้รับสิทธิ์จะไม่ประกอบหรือปรุงอาหารภายในร้าน
ค่าโรยัลตี้ คือค่าสิทธิ์ผลประโยชน์ตอบแทนการใช้ชื่อ “แบล็คแคนยอน” เพื่อดำเนินธุรกิจจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม
ค่าช่วยส่งเสริมการตลาด คือ ค่าใช้จ่ายที่ร้านสาขาแบล็คแคนยอน ทุกสาขาชำระ เพื่อนำมาเป็นค่าใช้จ่ายในการตลาดและส่งเสริมการขาย เช่น การโฆษณา การประชาสัมพันธ์ การส่งเสริมการขาย การพิมพ์เอกสารเพื่อใช้งานดังกล่าว ฯลฯ
2.1 ค่าโรยัลตี้ คำนวณ 3% ของยอดขายก่อนภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยจะคำนวณตั้งแต่ปีที่ 1 เป็นต้นไป เงินค่าโรยัลตี้ขั้นต่ำต่อปี คือ
2.2 ค่าช่วยส่งเสริมการตลาด คำนวณ 2% ของยอดขายก่อนภาษีมูลค่าเพิ่ม
บริษัทฯ จะมีส่วนร่วมในการตัดสินใจเลือกสถานที่ เพื่อพิจารณาความเหมาะสมของที่ตั้ง และรักษาผลประโยชน์ของผู้รับสิทธิ์ ที่จะเปิดดำเนินธุรกิจแฟรนไชส์ การออกไปสำรวจสถานที่ครั้งแรกจะคิดค่าธรรมเนียม 5,000 บาท สำหรับการสำรวจพื้นที่ภายในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล หากเป็นพื้นที่ต่างจังหวัดจะคิดค่า ธรรมเนียม 10,000 บาท + ค่าที่พักและค่าเดินทาง หากทั้ง 2 ฝ่ายบรรลุข้อตกลง เพื่อประกอบธุรกิจร่วมกัน และมีการเซ็นสัญญาฯกัน ค่าธรรมเนียมส่วนนี้ จะถูกนำไปหักออกจากค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์ การออกไปสำรวจสถานที่ มิได้เป็นข้อผูกมัดที่บริษัทฯ จะต้องอนุมัติให้ผู้สนใจเปิดร้าน “แบล็คแคนยอน” แต่อย่างใด บริษัทฯ มีสิทธิ์ปฎิเสธ หากพบว่า สถานที่สำรวจนั้นไม่เหมาะสมต่อการเปิดร้าน "แบล็คแคนยอน"
อนึ่งบริษัทฯ สงวนสิทธิ์ในการเข้าเป็นคู่สัญญาเช่า หรือสัญญาเซ้งกับเจ้าของพื้นที่ และจะเซ็นสัญญาเช่าช่วงให้ กับผู้รับสิทธิ์โดยคิดอัตราค่าเช่าพื้นที่เพิ่ม จากอัตราเดิมตารางเมตรละ 30 บาท จากผู้เช่าช่วง เพื่อเปิดดำเนินการต่อไป
การออกแบบร้าน " BLACK CANYON " บริษัทฯ จะเป็นผู้คัดเลือกสถาปานิก ผู้ออกแบบ โดยผู้รับสิทธิ์ จะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการออกแบบ ตามค่าใช้จ่ายจริงที่เกิดขึ้น หรือในอัตราค่าธรรมเนียมวิชาชีพมาตรฐาน ที่สมาคมสถาปนิกเป็นผู้กำหนด ขึ้นอยู่กับขนาดของพื้นที่และลักษณะรูปแบบของร้าน การออกแบบจะต้องยึดถือนโยบายของบริษัทฯ โดยเคร่งครัด โดยทั่วไปค่าใช้จ่ายในการออกแบบจะตกประมาณ 90,000 –150,000 บาท หรือ 10% – 15% ของงบประมาณค่าตกแต่งสถานที่
ผู้รับสิทธิ์ จะเป็นผู้รับผิดชอบค่าตกแต่งร้านทั้งหมด และค่าป้ายชื่อร้านตามรูปแบบที่กำหนด ผู้รับสิทธิ์ สามารถจะใช้บริการจากผู้รับเหมาก่อสร้างที่หามาเอง หรือจากผู้รับเหมาที่บริษัทฯ แนะนำให้ก็ได้ ทั้งนี้บริษัทฯ จะดำเนินการเปิดประมูล เพื่อให้เกิดการแข่งขัน โดยจะพิจารณาถึงผลงาน ประสบการณ์ และความมั่นคงของผู้รับเหมา เป็นปัจจัยประกอบการคัดเลือก ผู้รับเหมาตกแต่งสถานที่จะต้องปฏิบัติตามกฏระเบียบของศูนย์การค้าฯ หรือเจ้าของสถานที่อย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สิน ศูนย์การค้าฯ หรือสถานที่บางแห่ง อาจมีข้อบังคับให้ผู้รับเหมา หรือผู้รับสิทธิ์ต้องวางเงินมัดจำ ค่าเสียหายไว้ล่วงหน้า จำนวนหนึ่ง เพื่อเป็นประกัน โดยทั่วไปงบประมาณในการตกแต่งสถานที่จะตกประมาณ ดังนี้
ผู้รับสิทธิ์ จะต้องจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องครัว ภาชนะบรรจุเครื่องมือ เครื่องใช้ต่างๆ และเครื่องแต่งกายตามรูปแบบ และมาตราฐานที่กำหนดโดยบริษัทฯ งบประมาณ เพื่อลงทุนในส่วนนี้จะตกประมาณ ดังนี้
สำหรับร้านอาหาร อุปกรณ์บางประเภทจะได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตร ยกตัวอย่างเช่น เครื่องล้างจานอัตโนมัติ จะใช้วิธีเช่า อุปกรณ์ตู้แช่เครื่องดื่ม เป็นต้น...
ผู้รับสิทธิ์ จะต้องซื้อเครื่องเก็บเงิน และซอฟท์แวร์ จากบริษัทฯ เพื่อให้แคชเชียร์ใช้ในการเก็บข้อมูลออเดอร์จากลูกค้า คำนวณค่าอาหาร สรุปยอดขาย ฯลฯ ผู้รับสิทธิ์ มีหน้าที่ต้องแจ้งรายละเอียดยอดขายประจำวัน และประจำเดือน ให้บริษัทฯ ทราบภายในวันที่ 5 ของเดือนถัดไป และเครื่องเก็บเงินดังกล่าวจะ On-Line มายังสำนักงานใหญ่ด้วย โดยเครื่องเก็บเงิน จะต้องผ่านการขออนุญาตการใช้เครื่องบันทึกเก็บเงิน จากสรรพากรอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
งบประมาณลงทุนด้านฮาร์ดแวร์ และซอฟท์แวร์จะตกประมาณ 1.0 – 1.5 แสนบาท
ผู้รับสิทธิ์ จะเป็นผู้รับผิดชอบค่าธรรมเนียมการขอจดทะเบียนสัญญาอนุญาตให้ใช้เครื่องหมายการค้าต่อกรมทรัพย์สินทางปัญญา จำนวน 800 – 1,000 บาท ตลอดจนค่าอากร และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ไม่เกิน 3,000 บาท สำหรับอากรและอื่นๆ จะเบิกตามค่าใช้จ่ายจริงที่เกิดขึ้น โดยบริษัทฯ เป็นผู้ดำเนินการ ค่าใช้จ่ายนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม
นอกจากนั้น ยังมีค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายต่างๆ สำหรับทางราชการ เช่น ค่าภาษีป้าย ค่าภาษีสรรพสามิต ค่าธรรมเนียมงานอนามัย ค่าภาษีโรงเรือน เป็นต้น ซึ่งผู้รับสิทธิ์ เป็นผู้รับผิดชอบโดยตรง
ผู้รับสิทธิ์ จะต้องมีเงินทุนสำรองเพียงพอ ต่อการใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของกิจการ เช่น ค่าเงินเดือน ค่าวัตถุดิบ ค่าภาษี ฯลฯ ปัญหาที่พบประการหนึ่ง ในธุรกิจแฟรนไชส์โดยทั่วไปก็คือ ผู้รับสิทธิ์ อาจมีเงินทุนหมุนเวียนและเงินทุนไม่เพียงพอต่อการดำเนินธุรกิจ ซึ่งมีผลต่อความล้มเหลวของกิจการได้ ดังนั้น การคัดเลือกผู้รับสิทธิ์แฟรนไชส์ “ BLACK CANYON ” จึงจะพิจารณาถึงความพร้อมด้านเงินลงทุนของผู้สมัครด้วย
หมายเหตุ : ผู้รับสิทธิ์ที่ทำทุจริตโดยนำกาแฟชนิดอื่นที่มิใช่ของ “BLACK CANYON” มาขายและให้บริการลูกค้า โดยทำให้ผู้บริโภคหลงผิดคิดว่าเป็นกาแฟ “BLACK CANYON” จะถูกดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและทางอาญาอย่างเคร่งครัด